วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ซอฟต์แวร์ (Software)
ความหมายของซอฟต์แวร์
ซอฟท์แวร์   เป็นส่วนที่มนุษย์สัมผัสไม่ได้โดยตรงเพราะซอฟท์แวร์มีคุณลักษณะเป็นนามธรรมโดยทั่วไปเรียกว่าโปรแกรมหรือชุดคำสั่งที่ถูกเขียนขึ้นเพื่อสั่งการให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงาน ซอฟต์แวร์จึงทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างผู้ใช้คอมพิวเตอร์และเครื่องคอมพิวเตอร์ ถ้าไม่มีซอฟต์แวร์เรา ก็ไม่สามารถใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำอะไรได้เลย ซอฟต์แวร์สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท
ประเภทของซอฟต์แวร์
ในบรรดาซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่มีผู้พัฒนาขึ้นเพื่อใช้งานกับคอมพิวเตอร์มีมากมาย ซอฟต์แวร์เหล่านี้อาจได้รับการพัฒนาโดยผู้ใช้งานเอง หรือผู้พัฒนาระบบ หรือผู้ผลิตจำหน่าย หากแบ่งแยกชนิดของซอฟต์แวร์ตามสภาพการทำงาน โดยทั่วไปแล้วซอฟต์แวร์แบ่งได้ ประเภทใหญ่ๆ คือ ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software) ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software) โดยมีรายละเอียดของซอฟต์แวร์แต่ละประเภทดังนี้
·       ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software)
ซอฟท์แวร์ระบบเป็นโปรแกรมที่บริษัทผู้ผลิตสร้างขึ้นมาเพื่อใช้จัดการกับระบบ หน้าที่การทำงานของซอฟต์แวร์ระบบ คือ ดำเนินงานพื้นฐานต่าง ๆ ของระบบคอมพิวเตอร์ เช่น รับข้อมูลจากแผงแป้นอักขระแล้วแปลความหมายให้คอมพิวเตอร์เข้าใจ นำข้อมูลไปแสดงผลบนจอภาพหรือนำออกไปยังเครื่องพิมพ์ จัดการข้อมูลในระบบแฟ้มข้อมูลบนหน่วยความจำรอง
·       ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software)
ซอฟต์แวร์ประยุกต์เป็นโปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานเฉพาะเรื่องตามที่เราต้องการ  เช่น  งานพิมพ์เอกสาร  งานพิมพ์รายงาน  วาดภาพ  เล่นเกม  หรือโปรแกรมระบบบัญชี  รายรับรายจ่าย  และเงินเดือน  โปรแกรมอินเทอร์เน็ตเอ็กซ์พลอเรอร์  ใช้เพื่อการสืบค้นข้อมูลและเชื่อมโยง  กับระบบอินเทอร์เน็ตก็ได้  เน้นการใช้งานสะดวก
ความจำเป็นของการใช้ซอฟต์แวร์
ซอฟต์แวร์ เป็นชุดคำสั่งหรือโปรแกรมที่ใช้สั่งงานให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามต้องการ เป็นการสั่งงานตามลำดับขั้นตอนที่ผู้เขียนโปรแกรมเรียบเรียงไว้ในรูปของเลขฐานสองซึ่งใช้แทนข้อมูลที่เป็นตัวเลข ตัวอักษร รูปภาพ และเสียง
ภาษาหรือโปรแกรมที่ใช้สั่งงานคอมพิวเตอร์จึงเป็นซอฟต์แวร์สำคัญที่ทำให้คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องทำงานแตกต่างกันได้มากมาย  เพราะคำสั่งหรือซอฟท์แวร์แต่ละโปรแกรมจะถูกออกแบบสำหรับใช้กับแต่ละงานแตกต่างกัน  เช่น โปรแกรมสำหรับจัดทำเอกสาร  โปรแกรมสำหรับจัดทำบัญชี  โปรแกรมสำหรับจัดทำสื่อการนำเสนอ  โปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับการตกแต่งภาพนิ่ง  โปรแกรมเกี่ยวกับการตัดต่อภาพเคลื่อนไหว ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งบางโปรแกรมสามารถประยุกต์ใช้งานดีอีกหลายด้านตามความสามารถของผู้เขียนและผู้ใช้โปรแกรมนั้น ๆ
ซอฟท์แวร์และภาษาคอมพิวเตอร์
เราใช้คอมพิวเตอร์ทำงานในการจัดการสารสนเทศเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้องแม่นยำโดยการกำหนดวิธีการหรือขั้นตอนให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้ตามความต้องการ จำเป็นต้องมีสื่อกลางที่ใช้ในการติดต่อซึ่งกันและกันระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ เราเรียกสื่อกลางนี้ว่าภาษาคอมพิวเตอร์   เนื่องจากคอมพิวเตอร์ทำงานด้วยสัญญาณทางไฟฟ้าที่แทนค่าด้วยตัวเลข และ ได้ โดยผู้ออกแบบคอมพิวเตอร์ใช้ตัวเลข และ นี้เป็นรหัสแทนคำสั่งในการสั่งงานคอมพิวเตอร์ รหัสแทนข้อมูลและคำสั่งโดยใช้ระบบเลขฐานสองนี้ คอมพิวเตอร์สามารถแปลผลอย่างเป็นเหตุเป็นผลเชิงตรรกะได้อย่างถูกต้อง เราเรียกเลขฐานสองที่ประกอบกันเป็นชุดคำสั่งสำหรับคอมพิวเตอร์ว่า ภาษาเครื่องทฤษฎีแรกเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ที่ถูกเสนอโดยอลันทัวริงในปี 1935 ตัวเลขคำนวณการทดลองของเขากับใบสมัครเพื่อ Entscheidungs​​problem (ปัญหาการตัดสินใจ)  เรียกขานเป็นคำที่ใช้มักจะหมายถึงโปรแกรมซอฟต์แวร์ ในวิทยาการคอมพิวเตอร์และวิศวกรรมซอฟแวร์เป็นข้อมูลที่ประมวลผลด้วยระบบคอมพิวเตอร์โปรแกรมและข้อมูลทั้งหมด สาขาวิชาศึกษาซอฟต์แวร์ที่มีวิทยาการคอมพิวเตอร์และวิศวกรรมซอฟแวร์
เป็นโปรแกรมมากขึ้นเข้าสู่อาณาจักรของเฟิร์มและฮาร์ดแวร์ตัวเองกลายขนาดเล็กราคาถูกและเร็วขึ้นเป็นตามคำทำนายของกฎของมัวร์องค์ประกอบของการคำนวณครั้งแรกคิดว่าจะเป็นซอฟแวร์เข้าร่วมจัดอันดับของฮาร์ดแวร์ ส่วนใหญ่ บริษัท ฮาร์ดแวร์ในวันนี้มีโปรแกรมซอฟต์แวร์เพิ่มเติมเกี่ยวกับการจ่ายเงินเดือนกว่าออกแบบฮาร์ดแวร์อ้างอิง [จำเป็น] เนื่องจากเครื่องมือซอฟต์แวร์ได้โดยอัตโนมัติงานหลายอย่างของวิศวกร Printed Circuit Board เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมยานยนต์อุตสาหกรรมซอฟแวร์ได้เติบโตขึ้นจากวิสัยทัศน์ไม่กี่ดำเนินงานออกจากโรงรถของพวกเขาโดยมีต้นแบบ สตีฟจ็อบส์และบิลเกตส์เป็นเฮนรี่ฟอร์ดและหลุยส์เชฟโรเลตของสมัยนั้น [อ้างจำเป็น] ที่เน้นความคิดที่รู้จักกันแล้วก่อนที่พวกเขาร่วมกันเริ่มต้นในธุรกิจ ในกรณีของการพัฒนาซอฟแวร์ในขณะนี้เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปจะสิ่งพิมพ์ในปี 1980 ของข้อกำหนดสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของไอบีเอ็มจัดพิมพ์โดยไอบีเอ็มพนักงานฟิลิปดอน Estridge วันนี้ย้ายของเขาจะถูกมองว่าเป็นประเภทของฝูงชน sourcing.Computer บริษัท ฮาร์ดแวร์ที่ไม่ได้รวมซอฟต์แวร์ของพวกเขาเพียงพวกเขายังเรียกร้องวางบนทำเลที่ตั้งของฮาร์ดแวร์ในพื้นที่แช่เย็นที่เรียกว่าห้องคอมพิวเตอร์
จนกว่าจะถึงเวลาที่ซอฟแวร์ถูกรวบกับฮาร์ดแวร์โดยผู้ผลิตอุปกรณ์ (OEM) เช่นข้อมูลทั่วไปอุปกรณ์ดิจิตอลและ IBM อ้างอิง [จำเป็น]เมื่อลูกค้าซื้อมินิคอมพิวเตอร์ในเวลานั้นคอมพิวเตอร์ที่เล็กที่สุดในตลาดคอมพิวเตอร์ไม่ได้มาพร้อมกับซอฟต์แวร์ที่ติดตั้ง แต่จำเป็นจะต้องติดตั้งโดยวิศวกรลูกจ้างโดย OEM บริษัท ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ไม่รวมซอฟแวร์เพียงพวกเขายังเรียกร้องวางบนทำเลที่ตั้งของฮาร์ดแวร์ในพื้นที่แช่เย็นที่เรียกว่าห้องคอมพิวเตอร์ บริษัท ส่วนใหญ่มีซอฟต์แวร์ของพวกเขาเกี่ยวกับหนังสือสำหรับ 0 ดอลลาร์ไม่สามารถที่จะเรียกร้องให้เป็นสินทรัพย์ (นี้จะคล้ายกับการจัดหาเงินทุนของเพลงฮิตในสมัย​​นั้น) เมื่อนำข้อมูลทั่วไปข้อมูลทั่วไปโนวา บริษัท ที่เรียกว่า Digidyne ต้องการที่จะใช้ระบบปฏิบัติการของ RDOS ในโคลนฮาร์ดแวร์ของตัวเอง ข้อมูลทั่วไปปฏิเสธที่จะอนุญาตซอฟต์แวร์ของพวกเขา (ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะทำเพราะมันเป็นหนังสือเป็นสินทรัพย์ฟรี), และอ้างว่า "สิทธbundling" ของพวกเขา ศาลฎีกาเป็นแบบอย่างที่เรียกว่าโวลต์ Digidyne ข้อมูลทั่วไปในปี 1985 ศาลฎีกาให้วงจรขา 9 ตัดสินใจและข้อมูลทั่วไปที่สุดก็ถูกบังคับให้เป็นใบอนุญาตซอฟแวร์ระบบปฏิบัติการเพราะมันถูกปกครองที่ จำกัด การอนุญาตให้เฉพาะฮาร์ดแวร์ DG คือการจัดเรียงผูกผิดกฎหมาย. [4] ไม่สามารถที่จะรักษาความสูญเสียจากทนายความของ ค่าธรรมเนียมข้อมูลทั่วไปลงเอยด้วยการถูกยึดครองโดย EMC Corporationศาลฎีกาตัดสินทำให้มันไปได้ที่จะซอฟต์แวร์มูลค่าและยังซื้อสิทธิบัตรซอฟต์แวร์
มี บริษัท ที่ประสบความสำเร็จมากในวันนี้ที่ขายสินค้าซอฟต์แวร์เท่านั้นแม้ว่าจะมีหลายคนยังคงมีปัญหาการออกใบอนุญาตซอฟต์แวร์ทั่วไปเนื่องจากความซับซ้อนของการออกแบบและเอกสารไม่ดีนำไปสู่​​การจดสิทธิบัตรโทรลล์
ที่มีคุณสมบัติซอฟต์แวร์โอเพนและเป็นไปได้ของการออกใบอนุญาตซอฟแวร์โอกาสใหม่เกิดขึ้นสำหรับเครื่องมือซอฟต์แวร์ที่นั้นก็กลายเป็นมาตรฐาน de facto เช่น DOS สำหรับระบบปฏิบัติการ แต่ยังประมวลผลคำต่างๆที่เป็นกรรมสิทธิ์และโปรแกรมกระดาษคำนวณ ในรูปแบบการเจริญเติบโตที่คล้ายกันวิธีการพัฒนาซอฟท์แวกรรมสิทธิ์กลายเป็นวิธีการมาตรฐานการพัฒนา
 สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือชื่อในภาษาอังกฤษว่า Software Industry Promotion Agency (Public Organization) เรียกชื่อย่อว่า SIPA เป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2546  
  
วัตถุประสงค์การจัดตั้งสำนักงาน 

วัตถุประสงค์การจัดตั้งสำนักงานตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงาน  ซึ่งสำนักงานจะต้องดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์การจัดตั้งสำนักงาน ที่กำหนดไว้ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. วางแผนและกำหนดนโยบายพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ของประเทศให้สอดคล้องกับแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

2. ส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ โดยมุ่งเน้นการสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ของประเทศ การพัฒนาบุคลากร การตลาด การลงทุน กระบวนการผลิต และการให้บริการที่ได้มาตรฐานสากลรวมถึงการสร้างแรงจูงใจในการลงทุนทางด้านอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ โดยการเสนอแนะมาตรการทางด้านภาษี และสิทธิประโยชน์ต่างๆ ต่อคณะรัฐมนตรี

3. สนับสนุนการค้นคว้าวิจัย การถ่ายทอดเทคโนโลยี และจัดให้มีกฎ ระเบียบ และมาตรการที่จำเป็นต่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์

4. ส่งเสริมให้เกิดการคุ้มครองด้านทรัพย์สินทางปัญญาสำหรับซอฟต์แวร์

5. เป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานและแก้ปัญหาเกี่ยวกับการดำนินการทางด้านอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ให้มีบริการแบบเบ็ดเสร็จ
วิสัยทัศน์(Vision)

วิสัยทัศน์ (Vision) หมายถึงความคาดหวังของสำนักงานที่ต้องการให้เกิดขึ้นและมีความเป็นไปได้
อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงในปัจจุบัน คือ

"SIPA จะนำพาประเทศไทยสู่เวทีซอฟต์แวร์โลก 
(Stage Thailand as a global Player in Software Industry)"


พันธกิจ (Mission)

1. ส่งเสริม การเงิน การลงทุนและสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้กับผู้ประกอบการซอฟต์แวร์

2. ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่สอดคล้องกับความต้องการของภาคเศรษฐกิจหลักของประเทศ

3. พัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านซอฟต์แวร์ ให้มีทักษะที่สูงและตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ในภาคอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์

4. การส่งเสริมให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs)ในประเทศใช้ซอฟต์แวร์ในการบริหารจัดการเพื่อเพิ่มศักยภาพธุรกิจ

5. ส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือทั้งด้านการตลาดและการพัฒนาซอฟต์แวร์/บริการซอฟต์แวร์ระหว่างผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทยกับผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ต่างชาติ

6. ส่งเสริมให้เกิดการวิจัยด้านผลิตภัณฑ์หรือบริการซอฟต์แวร์และผลักดันให้เกิดการนำผลงานวิจัยมาต่อยอดทางธุรกิจ

7. ส่งเสริมให้เกิดการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาในผลิตภัณฑ์และบริการซอฟต์แวร์ที่คิดค้นโดยผู้ประกอบการไทยและให้บริการแก้ไขปัญหาแบบเบ็ดเสร็จ

ค่านิยมองค์กร (Core-Value)

ค่านิยมองค์กร (Core-Value) หมายถึง ความคิดหรือความเชื่อร่วมกันของสำนักงานซึ่งได้รับการพิจารณาแล้วว่ามีคุณค่า มีประโยชน์ ถูกต้องเหมาะสม ดีงาม สมควรประกาศไว้เพื่อกำกับให้บุคลากรในสำนักงานยึดถือและประพฤติปฏิบัติตาม คือ
"SIPA” หมายถึง

S : Service-mindedการบริการด้วยจิตอาสา
I : Integrityการยึดหลักความซื่อสัตย์ และความถูกต้อง
P : Performance-basedการด าเนินงานโดยเน้นคุณภาพและประสิทธิภาพ
A : Accountability การด าเนินงานด้วยความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้

ผลผลิตและเป้าหมายหลัก

1) ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์

2) การพัฒนาตลาดซอฟต์แวร์ด้วยการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการขนาดกลางขนาดย่อม (SMEs) ใช้
เทคโนโลยีสารสนเทศ
ประเภทของซอฟต์แวร์
       ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่มีผู้พัฒนาขึ้นเพื่อใช้งานกับคอมพิวเตอร์มีมากมาย ซอฟต์แวร์เหล่านี้อาจได้รับการพัฒนาโดยผู้ใช้งานเอง หรือผู้พัฒนาระบบ หรือผู้ผลิตจำหน่าย หากแบ่งแยกชนิดของซอฟต์แวร์ตามสภาพการทำงาน พอแบ่งแยกซอฟต์แวร์ได้เป็นสองประเภท คือ ซอฟต์แวร์ระบบ (system software) และซอฟต์แวร์ประยุกต์ (application software)
  • ซอฟต์แวร์ระบบ คือซอฟต์แวร์ที่บริษัทผู้ผลิตสร้างขึ้นมาเพื่อใช้จัดการกับระบบ หน้าที่การทำงานของซอฟต์แวร์ระบบคือดำเนินงานพื้นฐานต่าง ๆ ของระบบคอมพิวเตอร์ เช่น รับข้อมูลจากแผงแป้นอักขระแล้วแปลความหมายให้คอมพิวเตอร์เข้าใจ นำข้อมูลไปแสดงผลบนจอภาพหรือนำออกไปยังเครื่องพิมพ์ จัดการข้อมูลในระบบแฟ้มข้อมูลบนหน่วยความจำรอง
เมื่อเราเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ทันทีที่มีการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์จะทำงานตามโปรแกรมทันที โปรแกรมแรกที่สั่งคอมพิวเตอร์ทำงานนี้เป็นซอฟต์แวร์ระบบ ซอฟต์แวร์ระบบอาจเก็บไว้ในรอม หรือในแผ่นจานแม่เหล็ก หากไม่มีซอฟต์แวร์ระบบ คอมพิวเตอร์จะทำงานไม่ได้
ซอฟต์แวร์ระบบยังใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาซอฟต์แวร์อื่น ๆ และยังรวมไปถึงซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการแปลภาษาต่าง ๆ
  • ซอฟต์แวร์ประยุกต์ เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้กับงานด้านต่าง ๆ ตามความต้องการของผู้ใช้ ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้โดยตรง ปัจจุบันมีผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ใช้งานทางด้านต่าง ๆ ออกจำหน่ายมาก การประยุกต์งานคอมพิวเตอร์จึงกว้างขวางและแพร่หลาย เราอาจแบ่งซอฟต์แวร์ประยุกต์ออกเป็นสองกลุ่มคือ ซอฟต์แวร์สำเร็จ และซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นใช้งานเฉพาะ ซอฟต์แวร์สำเร็จในปัจจุบันมีมากมาย เช่น ซอฟต์แวร์ประมวลคำ ซอฟต์แวร์ตารางทำงาน ฯลฯ
 คอมพิวเตอร์ประกอบด้วยหน่วยรับเข้าหน่วยส่งออกหน่วยความจำและหน่วยประมวลผลในการทำงานของคอมพิวเตอร์จำเป็นต้องมีการดำเนินงานกับอุปกรณ์พื้นฐานที่จำเป็นดังนั้นจึงต้องมีซอฟต์แวร์ระบบเพื่อใช้ในการจัดการระบบหน้าที่หลักของซอฟต์แวร์ระบบประกอบด้วย
1.             ใช้ในการจัดการหน่วยรับเข้าและหน่วยส่งออก เช่น รับการกดแป้นต่าง ๆ บนแผงแป้นอักขระ ส่งรหัสตัวอักษรออกทางจอภาพหรือเครื่องพิมพ์ ติดต่อกับอุปกรณ์รับเข้า และส่งออกอื่น ๆ เช่น เมาส์ อุปกรณ์สังเคราะห์เสียง
2.             ใช้ในการจัดการหน่วยความจำ เพื่อนำข้อมูลจากแผ่นบันทึกมาบรรจุยังหน่วยความจำหลัก หรือในทำนองกลับกัน คือนำข้อมูลจากหน่วยความจำหลักมาเก็บไว้ในแผ่นบันทึก
3.             ใช้เป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้งานกับคอมพิวเตอร์ สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น เช่น การขอดูรายการสารบบในแผ่นบันทึก การทำสำเนาแฟ้มข้อมูล
ซอฟต์แวร์ระบบพื้นฐานที่เห็นกันทั่วไป แบ่งออกเป็นระบบปฏิบัติการ และตัวแปลภาษา ซอฟต์แวร์ทั่งสองประเภทนี้ทำให้เกิดพัฒนาการประยุกต์ใช้งานได้ง่ายขึ้น